เกมนี้เป็นไปอย่างอึดอัด โดยเชลซีครองบอลได้มากกว่าแต่ไร้ความเฉียบคมในแดนหน้า ขณะที่ยูไนเต็ดยังคงฟอร์มย่ำแย่ ไม่ชนะในลีก 8 นัดติดต่อกัน และมีโอกาสยิงตรงกรอบเพียงครั้งเดียว

คูคูเรญ่าทำประตูสำคัญจากลูกเปิดสุดสวยของรีซ เจมส์ ในนาทีที่ 71 กลายเป็นไฮไลต์ของเกม และเป็นจังหวะที่ปลุกความหวังของแฟนบอลทั้งสนาม ผู้เล่นเชลซีฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยง ถึงขั้นมีแฟนบอลรายหนึ่งวิ่งลงสนามก่อนจบเกม

เอนโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซี กล่าวหลังเกมว่า “เรารู้อยู่แล้วว่าต้องเจอเกมยาก พวกเขาเล่นเกมรับตัวต่อตัวได้ดี แต่เราสร้างโอกาสได้มากพอ และสมควรชนะ”

อย่างไรก็ตาม เชลซียังมีปัญหาในแนวรุกเมื่อไม่มีทั้งนิโคลัส แจ็กสัน (ติดโทษแบน) และกองหน้าตัวหลักคนอื่น ทำให้ต้องส่งไทริค จอร์จ ดาวรุ่งวัย 19 ปีลงเป็นตัวจริง ซึ่งแม้จะโชว์ฟอร์มได้เต็มที่แต่ยังขาดอันตรายในจังหวะจบสกอร์

จังหวะใกล้เคียงที่สุดของเชลซีเกิดขึ้นเมื่อจอร์จโดน อ็องเดร โอนานา เข้าสกัดล้มในเขตโทษ กรรมการชี้จุดโทษทันทีแต่ VAR ยืนยันว่าโอนานาโดนบอลก่อน จึงยกเลิกจุดโทษไป

ฝั่งยูไนเต็ด เคยส่งบอลเข้าประตูจากแฮร์รี แม็กไกวร์ในนาทีที่ 16 แต่ VAR ริบประตูคืนเพราะล้ำหน้าเล็กน้อย ส่งผลให้ทีมแพ้ในลีกเป็นนัดที่ 18 ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973-74

รูเบน อาโมริม กุนซือยูไนเต็ดกล่าวถึงการจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามก่อนเกมนัดชิงยูโรปาลีกกลางสัปดาห์ว่า “ผมไม่อยากให้ผู้เล่นเว้นว่างถึง 10 วัน การแข่งขันคือการเตรียมตัวที่ดีที่สุด”

เชลซีจะไปเยือนน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ในนัดสุดท้าย โดยต้องการชัยชนะเพื่อการันตีพื้นที่แชมเปียนส์ลีก ขณะที่ยูไนเต็ดเตรียมลุ้นคว้าแชมป์ยุโรปใบเล็กในวันพุธนี้เป็นเดิมพันสำคัญของฤดูกาล